นมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เพราะในทุกหยดน้ำนมแม่นั้นให้ทั้งคุณค่าด้านโภชนาการและการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน นมแม่ประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพหลายชนิด เช่น สารภูมิต้านทาน (Anitbody) และโปรตีนต่างๆ รวมทั้งแบคทีเรียที่ดีต่อระบบทางเดินอาหารของลูกน้อย ที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังมีกรดไขมันจำเป็น ที่สำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและสมอง เช่น DHA สารต่อต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินอีกด้วย
สารอาหารในนมแม่มีความแตกต่างกันตามช่วงวัยและความต้องการทางร่างกายของลูกน้อย ลูกน้อยจะมีภูมิคุ้มกัน โดย การรับสารภูมิต้านทาน (Antibody) ผ่านทางนมแม่ ซึ่งช่วยให้ลูกน้อยสามารถปรับตัวสร้างภูมิต้านทานเพื่อปกป้องลูก จากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลต่อความเจ็บป่วยได้เนื่องจากวัยทารกระบบภูมิต้านทานต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์
น้ำนมแม่โดยเฉพาะน้ำนมแรก ที่เรียกว่า “คอลอสตรัม” นั้น เป็นน้ำนมนี้ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ร่างกายมากกว่า การเร่งการเจริญเติบโต จึงอุดมไปด้วยสารหลากหลายชนิดที่เสริมสร้างภูมิต้านทานให้ทารกน้อย
น้ำนมแรก จึงเปรียบดัง วัคซีนหยดแรกที่ช่วยปกป้องทารกจากเชื้อไวรัสและการติดเชื้อต่างๆ มีฤทธิ์ช่วยระบายอ่อนๆ กระตุ้นการขับถ่ายอุจจาระแรก หรือขี้เทาออกจากลำไส้ของทารก ซึ่งอุจจาระจะมีลักษณะหนา และมีสีดำอมเขียว และยังช่วยป้องกันการเกิดดีซ่านด้วย นอกจากนั้น น้ำนมแรกยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารมีสุขภาพดีและอุจจาระจับตัวเป็นก้อนนิ่มๆ เพราะมีโอลิโกแซคคาไรด์ หรือ พรีไบโอติก
พรีไบโอติก คือแหล่งอาหารสำคัญของจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเรียกว่า โพรไบโอติก(Probiotics) การทำงานแบบ ซินไบโอติก ซึ่งพบในนมแม่ ช่วยส่งเสริมให้จุลินทรีย์สุขภาพในระบบทางเดินอาหารของลูกเติบโตได้ดี ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค ส่งผลต่อระบบภูมิต้านทานที่ดี
8 ส่วนประกอบ สร้างภูมิต้านทานในน้ำนมแม่
- อิมมูโนโกลบูลิน มีหน้าที่ตรวจจับและทำลายจุลินทรีย์ก่อโรคติดต่อซึ่งเป็นอันตรายต่อทารก ในขณะเดียวกันก็ทำการปกป้องจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ของทารกน้อย
- พรีไบโอติก เป็นอาหารที่ส่งเสริมการเจริญของจุลินทรีย์สุขภาพในลำไส้ของทารก และช่วยลดการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ก่อโรค
- แลคโตเฟอริน มีบทบาทในการดูดซึมธาตุเหล็กและขวางไม่ให้แบคทีเรียได้รับธาตุเหล็ก
- โปรตีน ดูดซึมวิตามินบี12 ซึ่งจะจับกับวิตามินบี12 และขัดขวางไม่ให้แบคทีเรียได้รับวิตามินบี12
- บิฟิดัส แฟคเตอร์ มีหน้าที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ “แลคโตบาซิลลัส บิฟิดัส” ในลำไส้ของทารก โดยปกป้องจุลินทรีย์ชนิดนี้ให้ปลอดภัยจากแบคทีเรียก่อโรค
- ไฟโบรเนคติน ช่วยเร่งการทำงานของเซลเม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อโรค และช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากการอักเสบในลำไส้
- ฮอร์โมนและสารกระตุ้นการเจริญเติบโต จะกระตุ้นให้ลำไส้ของทารกพัฒนาเต็มที่เร็วขึ้นและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อในลำไส้
- เซลล์เม็ดเลือดขาว จะหลั่งเอ็นไซม์ชื่อไลโซโซม ซึ่งย่อยสลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียและทำลายแบคทีเรีย
นอกจากนี้ ปริมาณธาตุอาหารหลัก ในน้ำนมแม่ช่วงระยะ 4 เดือนหลังคลอด ซึ่งได้แก่ โปรตีน ไขมัน น้ำตาลแลคโตส จะมีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปัจจัยทางร่างกายและสภาพแวดล้อมของคุณแม่ เช่น น้ำหนักตัว การมีประจำเดือน ปริมาณน้ำนม และอาหารที่คุณแม่รับประทาน การใส่ใจดูแลสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารเพื่อคุณภาพน้ำนมที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญ มีการศึกษาพบว่าปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ ขึ้นอยู่กับปริมาณ DHA ที่แม่รับประทานเข้าไป เช่นเดียวกับปริมาณวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ
การให้นมแม่ช่วยเสริมภูมิต้านทาน พัฒนาสมองและร่างกายให้ลูกน้อย ยังมีประโยชน์ ต่อตัวคุณแม่เองอีกมากมายด้วยค่ะ
- การให้ลูกดูดนมแม่จะช่วยให้คุณแม่เผาผลาญพลังงาน ทำให้น้ำหนักตัวคุณแม่กลับสู่ปกติได้เร็ว
- ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ ลดอาการวัยทอง
- ทำให้มดลูกกลับสู่ภาวะปกติเร็วขึ้น
- ลดปัญหาเต้านมคัด ตึง
- ช่วยส่งต่อความรักความผูกพันจากแม่สู่ลูก
บทความนี้มีประโยชน์กับคุณหรือไม่?