เคล็ดลับชัวร์ๆเพิ่มการเติบโตสมวัย

• 

  • 

    ลูกน้อยควรทานอะไรใน 1 วัน

    รู้หรือไม่ ? พลังงานที่ได้รับต่อวันมีผลต่อการเจริญเติบโต

    ปริมาณอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน สำหรับเด็กอายุ 1-5 ปี

    

    ในช่วงวัย 1-3 ปี ลูกน้อยควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม และให้พลังงาน 1,000 กิโลแคลอรีต่อวัน หากลูกน้อยมีนิสัยกินยาก อาจทำให้เขาได้รับสารอาหาร และพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการส่งผลต่อการเจริญเติบโต พ่อแม่จึงควรช่วยปรับพฤติกรรมสร้างนิสัยกินดีให้ลูกน้อยแล้วเสริมด้วยนมที่มีสารอาหารครบ 5 กลุ่มคุณประโยชน์ และให้พลังงานสูง

    ในช่วงวัย 1-3 ปี ลูกน้อยควรได้รับอาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม และให้พลังงาน 1,000 กิโลแคลอรีต่อวัน หากลูกน้อยมีนิสัยกินยาก อาจทำให้เขาได้รับสารอาหาร และพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการส่งผลต่อการเจริญเติบโต พ่อแม่จึงควรช่วยปรับพฤติกรรมสร้างนิสัยกินดีให้ลูกน้อยแล้วเสริมด้วยนมที่มีสารอาหารครบ 5 กลุ่มคุณประโยชน์ และให้พลังงานสูง

  • 

    เทคนิคสร้าง “นิสัยกินดี” ให้ลูกรักกับ คุณหมอเสาวภา พรจินดารักษ์

    นิสัยที่ 1 กินน้อย หรือกินไม่หมด

    กรณีลูกกินน้อย ขอแนะนำเทคนิคดังนี้

    1. สร้างบรรยากาศการกินที่ดี ทำให้เวลากินเป็นเวลาของครอบครัว
    2. อย่าดุหรือบังคับเมื่อลูกกินไม่หมด หากหิวลูกจะกินอาหารมื้อต่อไปได้เอง
    3. อย่าติดสินบนด้วยของหวาน หากติดหวานลูกจะไม่สนใจกินอาหารรสธรรมชาติและกินยากขึ้น
    4. ตกแต่งอาหารให้น่ากิน สีสันสวยงาม เพื่อให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อการกินอาหารมากขึ้น
    5. ชวนลูกทำอาหารบ้าง เพื่อให้ลูกได้มีส่วนร่วมและมีโอกาสตกแต่งอาหารด้วยตัวเอง

    1. สร้างบรรยากาศการกินที่ดี ทำให้เวลากินเป็นเวลาของครอบครัว
    2. อย่าดุหรือบังคับเมื่อลูกกินไม่หมด หากหิวลูกจะกินอาหารมื้อต่อไปได้เอง
    3. อย่าติดสินบนด้วยของหวาน หากติดหวานลูกจะไม่สนใจ
       กินอาหารรสธรรมชาติ และกินยากขึ้น
    4. ตกแต่งอาหารให้น่ากิน สีสันสวยงาม เพื่อให้ลูกมี
       ทัศนคติที่ดีต่อการกินอาหารมากขึ้น
    5. ชวนลูกทำอาหารบ้าง เพื่อให้ลูกได้มีส่วนร่วมและ
       มีโอกาสตกแต่งอาหารด้วยตัวเอง

    โดย คุณหมอเสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการ และพฤติกรรม

    

    นิสัยที่ 2 เลือกกินเฉพาะอย่าง กินไม่หลากหลาย

    กรณีลูกกินไม่หลากหลาย ขอแนะนำเทคนิคดังนี้

    1. ควรเตรียมอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ และควรมีเนื้อปลาอย่างน้อย
       สัปดาห์ละ 2 มื้อ
    2. นำอาหารโปรดของลูกมาเป็นตัวเชื่อมกับอาหารที่ไม่เคยลอง โดยปรุงให้คล้ายกัน
       หรือเสิร์ฟพร้อมกัน
    3. ถ้าลูกไม่กินอย่าเพิ่งถอดใจและให้ของว่างน้อยลง ถ้าลูกหิวโอกาสลองอาหารใหม่
       จะสูงขึ้น

    1. ควรเตรียมอาหารให้ครบ 5 หมู่ทุกมื้อ และควรมีเนื้อปลา
       อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 มื้อ
    2. นำอาหารโปรดของลูกมาเป็นตัวเชื่อมกับอาหารที่
       ไม่เคยลอง โดยปรุงให้คล้ายกันหรือเสิร์ฟพร้อมกัน
    3. ถ้าลูกไม่กินอย่าเพิ่งถอดใจและให้ของว่างน้อยลง
       ถ้าลูกหิวโอกาสลองอาหารใหม่จะสูงขึ้น

    โดย คุณหมอเสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการ และพฤติกรรม

    

    นิสัยที่ 3 กินอาหารไม่มีประโยชน์ ติดหวาน

    กรณีลูกกินแต่อาหารไม่มีประโยชน์ ติดหวาน ขอแนะนำเทคนิคดังนี้

    1. ให้ลูกกินขนมรสหวานให้น้อยที่สุด และทำให้แน่ใจว่าลูกได้รับอาหารครบ 5 หมู่
       ในสัดส่วนที่เหมาะสม
    2. เลี่ยงการใส่น้ำตาลทรายเพิ่มในอาหารมื้อหลัก โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
    3. หากลดของหวานแล้วลูกกินน้อย อย่าติดสินบนลูกให้ใช้เทคนิคของอีกสอง
       กรณีร่วมด้วยเพื่อสุขภาพของลูกในระยะยาว

    1. ให้ลูกกินขนมรสหวานให้น้อยที่สุด และทำให้แน่ใจว่าลูกได้รับ
       อาหารครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม
    2. เลี่ยงการใส่น้ำตาลทรายเพิ่มในอาหารมื้อหลัก
       โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี
    3. หากลดของหวานแล้วลูกกินน้อย อย่าติดสินบน
       ลูกให้ใช้เทคนิคของอีกสองกรณีร่วมด้วย
       เพื่อสุขภาพของลูกในระยะยาว

    โดย คุณหมอเสาวภา พรจินดารักษ์ กุมารแพทย์พัฒนาการ และพฤติกรรม

    

  • 

    เมนูเด็ดพิชิตลูกกินยาก

    เจ้าชายเจ้าหญิงกินจุ

    เหมาะสำหรับเด็กกินน้อยหรือกินไม่หมด จากสาเหตุห่วงเล่นจนไม่สนใจกินอาหารมื้อหลัก ลองใช้เทคนิค “หน้าตาอาหารชวนสนุก” ตกแต่งอาหารให้มีสีสันสวยงาม เพื่อให้มีทัศนคติที่ดี ต่อการกินอยากกินอาหารมากขึ้น

    เหมาะสำหรับเด็กกินน้อยหรือกินไม่หมด จากสาเหตุห่วงเล่นจนไม่สนใจกินอาหารมื้อหลัก ลองใช้เทคนิค “หน้าตาอาหารชวนสนุก” ตกแต่งอาหารให้มีสีสันสวยงามเพื่อให้มีทัศนคติที่ดีต่อการกินอยากกินอาหารมากขึ้น

    

    

    วิธีทำ

    1. ให้ลูกๆ ช่วยคุณแม่เตรียมส่วนผสมของตัวไส้ โดยนำไข่ต้มมายีในถ้วยพลาสติก และคลุกกับ ไก่ต้มฉีก
       มายองเนส และเกลือ อย่าลืมลองให้น้องๆ ช่วยชิมรสชาติของไส้
    2. กดขนมปังเป็นวงกลมด้วยพิมพ์ทรงกลม จากนั้นทาไส้ขนมปังลงไป และประกบกันเป็นแซนด์วิช
    3. คุณแม่ช่วยน้องๆ ตัดแต่งชีส และสาหร่ายเป็นทรงต่างๆ เช่น มงกุฎเพื่อประกอบเป็นหน้าเจ้าหญิง และเจ้าชาย
    4. ลวกแครอท และวัตถุดิบสำหรับตกแต่งอื่นๆ ให้สุกนิ่ม
    5. นำแซนด์วิชลงกล่องแล้วตกแต่งให้สวยงาม

    1. ให้ลูกๆ ช่วยคุณแม่เตรียมส่วนผสมของตัวไส้ โดยนำไข่ต้มมายีในถ้วยพลาสติก และคลุกกับ
       ไก่ต้มฉีก มายองเนส และเกลือ อย่าลืมลองให้น้องๆ ช่วยชิมรสชาติของไส้
    2. กดขนมปังเป็นวงกลมด้วยพิมพ์ทรงกลม จากนั้นทาไส้ขนมปังลงไป และประกบกันเป็นแซนด์วิช
    3. คุณแม่ช่วยน้องๆ ตัดแต่งชีส และสาหร่ายเป็นทรงต่างๆ เช่น มงกุฎเพื่อประกอบเป็นหน้า
       เจ้าหญิง และเจ้าชาย
    4. ลวกแครอท และวัตถุดิบสำหรับตกแต่งอื่นๆ ให้สุกนิ่ม
    5. นำแซนด์วิชลงกล่องแล้วตกแต่งให้สวยงาม

    downloadPrint

    ข้าวปั้น 5 สี เพิ่มพลัง

    เหมาะสำหรับเด็กที่เลือกกินเฉพาะอย่าง ที่ไม่คุ้นชินกับสัมผัสอาหารที่หลากหลายทำให้ไม่ยอมกินในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจลองวิธี “อาหารโปรดเป็นตัวเชื่อม” นำอาหารที่ลูกชอบมาปรุงร่วมกับอาหารที่ลูกไม่เคยกิน เพื่อให้ลูกสามารถทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่

    เหมาะสำหรับเด็กที่เลือกกินเฉพาะอย่าง ที่ไม่คุ้นชินกับสัมผัสอาหารที่หลากหลายทำให้ไม่ยอมกินในสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อาจลองวิธี “อาหารโปรดเป็นตัวเชื่อม”นำอาหารที่ลูกชอบมาปรุงร่วมกับอาหารที่ลูกไม่เคยกิน เพื่อให้ลูกสามารถทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่

    

    

    วิธีทำ

    1. เตรียมส่วนผสมสำหรับข้าวปั้นแต่ละสี โดยปรุงให้สุกก่อนนำมาคลุกกับข้าว แบ่งข้าวญี่ปุ่นออกเป็น 5 ถ้วย
       ตามจำนวนสีข้าวปั้น พักให้หายร้อนสักครู่แล้วจึงนำส่วนผสมสำหรับสีนั้นๆ ผสมลงไป
    2. ให้คุณลูกช่วยขยำข้าวแต่ละสี อย่าลืมให้น้องใส่ถุงมือเพื่อสุขอนามัยที่ดี เมื่อข้าวผสมกันดีแล้ว
       ให้ปั้นเป็นทรงที่ต้องการโดยสามารถใช้พลาสติกห่ออาหารห่อไว้ก่อนได้ เพ่ื่่ือไม่ให้ข้าวติดมือ
       เมื่อปั้นข้าวเป็นก้อนแล้ว ตกแต่งโดยใช้สาหร่ายตัดแต่งเป็นตาและปากเพื่อสร้างหน้าตาให้กับข้าวปั้น

    1. เตรียมส่วนผสมสำหรับข้าวปั้นแต่ละสี โดยปรุงให้สุกก่อนนำมาคลุกกับข้าว แบ่งข้าวญี่ปุ่น
       ออกเป็น 5 ถ้วย ตามจำนวนสีข้าวปั้น พักให้หายร้อนสักครู่แล้วจึงนำส่วนผสมสำหรับสีนั้นๆ
       ผสมลงไป
    2. ให้คุณลูกช่วยขยำข้าวแต่ละสี อย่าลืมให้น้องใส่ถุงมือเพื่อสุขอนามัยที่ดี เมื่อข้าวผสมกัน
       ดีแล้ว ให้ปั้นเป็นทรงที่ต้องการโดยสามารถใช้พลาสติกห่ออาหารห่อไว้ก่อนได้ เพ่ื่่ือไม่ให้ข้าว
       ติดมือ เมื่อปั้นข้าวเป็นก้อนแล้วตกแต่งโดยใช้สาหร่ายตัดแต่งเป็นตาและปาก
       เพื่อสร้างหน้าตาให้กับข้าวปั้น

    downloadPrint

    ไอติมซูเปอร์ฟรุต ไร้ซูโครส (ซูโครส 0%)

    เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบกินอาหารไม่มีประโยชน์ ติดขนม ติดของหวาน รวมถึงนมที่มีน้ำตาลทรายลองเปลี่ยนมาใช้วิธี “ของหวานให้น้อยที่สุด” เมื่อแน่ใจว่าลูกกินอาหารครบ 5 หมู่ แล้ว “หาสิ่งที่ทดแทนน้ำตาลทราย” โดยใช้ความหวานที่ได้จากน้ำตาลธรรมชาติเป็นการทดแทน

    เหมาะสำหรับเด็กที่ชอบกินอาหารไม่มีประโยชน์ ติดขนม ติดของหวาน รวมถึงนมที่มีน้ำตาลทรายลองเปลี่ยนมาใช้วิธี “ของหวานให้น้อยที่สุด” เมื่อแน่ใจว่าลูกกินอาหารครบ 5 หมู่แล้ว “หาสิ่งที่ทดแทนน้ำตาลทราย” โดยใช้ความหวานที่ได้จากน้ำตาลธรรมชาติเป็นการทดแทน

    

    

    วิธีทำ

    1. คุณลูกช่วยคุณแม่หั่นผลไม้เป็นชิ้นๆ ด้วยมีดสำหรับเด็กแล้วแยกไว้
    2. นำน้ำสับปะรดมาปรุงรสด้วยเกลือและน้ำผึ้ง หากข้นไปสามารถเติมน้ำเปล่าเล็กน้อยได้
    3. วางผลไม้ในพิมพ์ แล้วใส่น้ำสับปะรดที่เตรียมไว้ลงไปให้ท่วมแล้วนำไปแช่แข็งประมาณ 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแข็งตัว
       โดยคุณแม่สามารถให้คุณลูกช่วยเทลงพิมพ์ได้ โดยใช้ภาชนะขนาดเล็ก เพื่อให้ง่ายต่อการเทของน้องๆ
    4. เมื่อไอติมแข็งตัวแล้วให้ค่อยๆ แกะออกจากพิมพ์ แล้วนำใส่จาน สามารถตกแต่งจานให้สวยงามได้จากผลไม้ที่เหลือ

    1. คุณลูกช่วยคุณแม่หั่นผลไม้เป็นชิ้นๆ ด้วยมีดสำหรับเด็กแล้วแยกไว้
    2. นำน้ำสับปะรดมาปรุงรสด้วยเกลือและน้ำผึ้ง หากข้นไปสามารถเติมน้ำเปล่าเล็กน้อยได้
    3. วางผลไม้ในพิมพ์ แล้วใส่น้ำสับปะรดที่เตรียมไว้ลงไปให้ท่วมแล้วนำไปแช่แข็งประมาณ
       4 ชั่วโมง หรือจนกว่าจะแข็งตัว โดยคุณแม่สามารถให้คุณลูกช่วยเทลงพิมพ์ได้ โดยใช้ภาชนะ
       ขนาดเล็ก เพื่อให้ง่ายต่อการเทของน้องๆ
    4. เมื่อไอติมแข็งตัวแล้วให้ค่อยๆ แกะออกจากพิมพ์ แล้วนำใส่จาน สามารถตกแต่ง
       จานให้สวยงามได้จากผลไม้ที่เหลือ

    downloadPrint

  • 

    วิธีเลือกนมสำหรับลูกกินยาก

    • 

      เมื่อลูกกินยาก อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงควรปรับพฤติกรรม
      การกินของลูกพร้อมดูแลโภชนาการของอาหารมื้อหลัก และ เลือกนม
      ที่มีสารอาหาร 5 กลุ่มคุณประโยชน์ ประกอบด้วย ไลซีนและกรดอะมิโน
      จำเป็นอื่นๆ / ดีเอชเอ และโอเมก้า 3,6,9 / แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินดี /
      วิตามินบี 2 วิตามินบี 12 กรดแพนโทธินิค และกรดโฟลิค / แอลซีฟอส และ
      อินนูลิน เพื่อให้ลูกได้รับโภชนาการที่ดีและเหมาะสมกับความต้องการในช่วงวัย

      เมื่อลูกกินยาก อาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จึงควรปรับ
      พฤติกรรมการกินของลูกพร้อมดูแลโภชนาการของอาหาร
      มื้อหลักและ เลือกนมที่มีสารอาหาร 5 กลุ่มคุณประโยชน์
      ประกอบด้วย ไลซีนและกรดอะมิโนจำเป็นอื่นๆ / ดีเอชเอ และ
      โอเมก้า 3,6,9 / แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินดี / วิตามินบี 2
      วิตามินบี 12 กรดแพนโทธินิค และกรดโฟลิค / แอลซีฟอส และ
      อินนูลิน เพื่อให้ลูกได้รับโภชนาการที่ดีและเหมาะสมกับความ
      ต้องการในช่วงวัย

    • 

      ไลซีน คือกรดอะมิโนจำเป็นชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้
      จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหาร และนมบางชนิด

      ไลซีน คือกรดอะมิโนจำเป็นชนิดหนึ่ง ซึ่งร่างกายไม่สามารถ
      สร้างเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากอาหาร และนมบางชนิด

    • 

      เลือกนมที่ไม่ใส่น้ำตาลทราย (น้ำตาลซูโครส) เสริมในมื้อว่างและก่อนนอน
      เพื่อให้ลูกโตสมวัยไม่ติดหวาน เพราะน้ำตาลทรายมีความหวานมากกว่า
      น้ำตาลแลคโตสในนมถึง 5 เท่า

      เลือกนมที่ไม่ใส่น้ำตาลทราย (น้ำตาลซูโครส) เสริมในมื้อว่างและ
      ก่อนนอน เพื่อให้ลูกโตสมวัยไม่ติดหวาน เพราะน้ำตาลทรายมี
      ความหวานมากกว่าน้ำตาลแลคโตสในนมถึง 5 เท่า

    • 

      ดีเอชเอ (DHA) คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 เป็นโครงสร้าง
      พื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาท ซึ่งช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการ
      ทางสมอง จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็น กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก

      ดีเอชเอ (DHA) คือกรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3
      เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมองและจอประสาท ซึ่งช่วยให้
      ลูกน้อยมีพัฒนาการทางสมอง จึงเป็นสารอาหารที่จำเป็น
      กับเด็กๆ เป็นอย่างมาก

• 

  • 

    Boost ความสูงให้ลูก

    ดีที่สุดคือ 0-3 ปี มารู้จักช่วงเวลาทองของพัฒนาการกันเถอะ

    

    0-3 ปีแรก ช่วงเวลาทองของพัฒนาการเด็ก โอกาสสำคัญในการ Boost ความสูงให้ลูก

    0-3 ปีแรก ช่วงเวลาทองของ
    พัฒนาการเด็ก โอกาสสำคัญใน
    การ Boost ความสูงให้ลูก

    จากกราฟแสดงอัตราการเพิ่มความสูงจะเห็นได้ว่า เมื่อเทียบอัตราการเพิ่มความสูงต่อปีของเด็กในวัย 0-3 ปี
    จะมีความสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าเด็กในวัย 3 ปีขึ้นไปอย่างชัดเจน ดังนั้น นอกจากช่วงเวลายืดตัวในช่วงวัยรุ่นแล้ว
    คุณพ่อคุณแม่ควรเสริมการเจริญเติบโตให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก

    จากกราฟแสดงอัตราการเพิ่มความสูงจะเห็นได้ว่า เมื่อเทียบอัตราการเพิ่มความสูง
    ต่อปีของเด็กในวัย 0-3 ปี จะมีความสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าเด็กในวัย 3 ปีขึ้นไป
    อย่างชัดเจน ดังนั้น นอกจากช่วงเวลายืดตัวในช่วงวัยรุ่นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควร
    เสริมการเจริญเติบโตให้ลูกตั้งแต่ยังเล็ก

    

    ความสูงของลูก ไม่ใช่แค่เริ่มเมื่อตอนโต แต่ เริ่มได้ตั้งแต่ 3 ขวบปีแรกโอกาสทองของพัฒนาการนี้

    ความสูงของลูก ไม่ใช่แค่เริ่มเมื่อตอนโต
    แต่ เริ่มได้ตั้งแต่ 3 ขวบปีแรก
    โอกาสทองของพัฒนาการ

    คุณแม่รู้หรือไม่ ว่าเราสามารถเสริมการเจริญเติบโตของลูกได้ตั้งแต่เขายังเล็ก และไม่ใช่แค่ความสูง แต่เราสามารถส่งเสริม
    การเจริญเติบโตของทั้งร่างกายและพัฒนาการในด้านต่างๆ โดยช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หรือที่เราเรียกว่าช่วงเวลาทองแห่งพัฒนาการ
    ของลูกนั้น คือ ช่วงอายุ 0-3 ปีแรก ซึ่งในช่วงเวลานี้ ลูกจะมีพัฒนาการในด้านต่างๆ แบบก้าวกระโดด
    หากได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องเหมาะสม

    คุณแม่รู้หรือไม่ ว่าเราสามารถเสริมการเจริญเติบโตของลูกได้ตั้งแต่เขายังเล็ก และ
    ไม่ใช่แค่ความสูง แต่เราสามารถส่งเสริมการเจริญเติบโตของทั้งร่างกายและพัฒนาการ
    ในด้านต่างๆ โดยช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด หรือที่เราเรียกว่าช่วงเวลาทองแห่งพัฒนาการ
    ของลูกนั้น คือ ช่วงอายุ 0-3 ปีแรก ซึ่งในช่วงเวลานี้ ลูกจะมีพัฒนาการในด้าน
    ต่างๆ แบบก้าวกระโดด หากได้รับการส่งเสริมอย่างถูกต้องเหมาะสม

    

    ควรเสริมโภชนาการเพื่อให้ลูกยืดตัวในช่วงเวลาทองนี้สิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนรากฐานแห่งการเจริญเติบโตของเด็กนั่นก็คือโภชนาการ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้รับโภชนาการที่เหมาะสม และได้รับสารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต เช่น

    ควรเสริมโภชนาการเพื่อให้
    ลูกยืดตัวในช่วงเวลาทองนี้

    สิ่งสำคัญที่เป็นเหมือนรากฐานแห่งการเจริญเติบโตของเด็กนั่นก็คือ
    โภชนาการ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้รับโภชนาการที่เหมาะสม และได้รับ
    สารอาหารที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโต เช่น

    • 

      สารอาหารหลัก 5 หมู่

      การรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ คือเรื่องพื้นฐานที่สุดที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้ลูกมีโภชนาการที่ดีและเหมาะสมต่อความ
      ต้องการในการเจริญเติบโตในทุกช่วงวัย

      การรับประทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ คือเรื่องพื้นฐานที่สุดที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้ลูก
      มีโภชนาการที่ดีและเหมาะสมต่อความต้องการในการเจริญเติบโตในทุกช่วงวัย

    • 

      แคลเซียม

      มีส่วนช่วยในการพัฒนาของมวลกระดูก และการขยายตัวของกระดูก พบมากใน นม กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งก้าง
      ผักบางชนิด เป็นต้น

      มีส่วนช่วยในการพัฒนาของมวลกระดูก และการขยายตัวของกระดูก พบมากใน
      นม กุ้งแห้ง ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งก้าง ผักบางชนิด เป็นต้น

    • 

      วิตามินดี

      มีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น การขาดวิตามินดีอาจทำให้เด็กตัวเตี้ยและขาโก่งได้
      อาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ ปลาทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล น้ำมันปลา ไข่แดง นม

      มีส่วนช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสได้ดียิ่งขึ้น การขาดวิตามินดี
      อาจทำให้เด็กตัวเตี้ยและขาโก่งได้ อาหารที่มีวิตามินดีสูง ได้แก่ ปลาทะเล เช่น
      ปลาแซลมอน ปลาแมคเคอเรล น้ำมันปลา ไข่แดง นม

    • 

      โปรตีน

      มีหน้าที่สำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การรับประทานให้เพียงพอจำเป็นอย่างมากสำหรับ
      การเจริญเติบโตของเด็ก โดยโปรตีนพบได้มากใน เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา รวมถึงถั่วต่างๆ และผักบางชนิด เช่น
      ผักโขม บร็อคโคลี เป็นต้น

      มีหน้าที่สำคัญในการสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ การรับประทาน
      ให้เพียงพอจำเป็นอย่างมากสำหรับการเจริญเติบโตของเด็ก โดยโปรตีนพบได้มาก
      ใน เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน เนื้อปลา รวมถึงถั่วต่างๆ และผักบางชนิด เช่น
      ผักโขม บร็อคโคลี เป็นต้น

    • 

      ดีเอชเอ

      กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์สมองและระบบประสาท ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการสมอง
      ที่ดีเป็นสารอาหารสำคัญที่เด็กๆ ควรได้รับอย่างเพียงพอ

      กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 มีส่วนสำคัญในการสร้างเซลล์สมองและ
      ระบบประสาท ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการสมองที่ดีเป็นสารอาหารสำคัญที่เด็กๆ
      ควรได้รับอย่างเพียงพอ

    • 

      ไลซีน

      ไลซีน คืออะไร?สำคัญกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างไร?
      

      ไลซีน (Lysine) คือกรดอะมิโนจำเป็นชนิดหนึ่ง เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานที่สำคัญของร่างกาย ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ ดังนั้นจึงจะต้องได้รับจากทางอาหารเท่านั้น โดยไลซีนจะอยู่ในอาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ชีส นม โปรตีน เป็นสารอาหารหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายในหลายด้าน¹ เช่น เป็นโครงสร้างให้กับร่างกาย การเจริญเติบโต การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก เป็นฮอร์โมนและเอนไซม์หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของร่างกาย และยังสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย โปรตีนในร่างกายมีการสร้างและย่อยสลายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งร่างกายจะมีการสร้างโปรตีนขึ้นใหม่ทุกวันโดยต้องอาศัยกรดอะมิโนจำเป็นที่ได้จากอาหาร ความต้องการไลซีนในเด็กอายุ 1-5 ปี อยู่ที่ประมาณ 800-920 มก./วัน² ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาถึงประโยชน์ของไลซีน ตัวอย่างเช่น การดูดซึมแคลเซียม^3,4 ระบบภูมิคุ้มกัน⁵ การเจริญเติบโต⁵ เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก⁶ กระตุ้นความอยากอาหารตามธรรมชาติเนื่องจากการขาดไลซีนอาจทำให้ไม่อยากอาหารได้⁶ เป็นต้น ผู้ที่เสี่ยงต่อการขาดไลซีนคือผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัต หรือได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ เนื่องจากหลากหลายสาเหตุ เช่น กินอาหารที่มีโปรตีนต่ำ เลือกกิน กินอาหารไม่หลากหลาย ปัจจุบันในท้องตลาดมีการใช้ไลซีนในผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์นม วิตามินเสริมสำหรับเด็กที่ช่วยให้เจริญอาหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าไลซีนจะเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อลูก การให้ลูกกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ได้เล่นและมีกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย จะช่วยให้ลูกเติบโตสมวัย มีพัฒนาการที่ดี สุขภาพแข็งแรง

      
      

      Reference

      1. Insel P, Turner ER, Ross D. Nutrition. 3rd ed. Sunbury: Jones and Bartlett; 2007
      2. Joint, F. A. O., and World Health Organization. Protein and amino acid requirements in human nutrition: report of a joint FAO/WHO/UNU expert consultation. World Health Organization, 2007.2
      3. Spencer H, Samachson J. J Nutr.1963;81:301–6
      4. Civitelli R et al. Nutrition. 1992Nov-Dec;8(6):400-5.
      5. Zhao, Wenhua, et al. Food Nutr Bull25.2 (2004): 123-129.
      6. EFSA Panel on Dietetic Products, Nutrition and Allergies (NDA). EFSA Journal 9.4 (2011): 2063

      ไลซีน คืออะไร?สำคัญกับการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างไร?
      

      ไลซีน (Lysine) คือกรดอะมิโนจำเป็นชนิดหนึ่ง เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการทำงานที่สำคัญของร่างกาย ซึ่งร่างกายสร้างเองไม่ได้ ดังนั้นจึงจะต้องได้รับจากทางอาหารเท่านั้น โดยไลซีนจะอยู่ในอาหารโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ ชีส นม โปรตีน เป็นสารอาหารหลักที่มีบทบาทสำคัญต่อร่างกายในหลายด้าน¹ เช่น เป็นโครงสร้างให้กับร่างกาย การเจริญเติบโต การซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก เป็นฮอร์โมนและเอนไซม์หลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานของร่างกาย และยังสร้างภูมิคุ้มกันอีกด้วย โปรตีนในร่างกายมีการสร้างและย่อยสลายอยู่ตลอดเวลา ซึ่งร่างกายจะมีการสร้างโปรตีนขึ้นใหม่ทุกวันโดยต้องอาศัยกรดอะมิโนจำเป็นที่ได้จากอาหาร ความต้องการไลซีนในเด็กอายุ 1-5 ปี อยู่ที่ประมาณ 800-920 มก./วัน² ปัจจุบันมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ศึกษาถึงประโยชน์ของไลซีน ตัวอย่างเช่น การดูดซึมแคลเซียม^3,4 ระบบภูมิคุ้มกัน⁵ การเจริญเติบโต⁵ เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก⁶ กระตุ้นความอยากอาหารตามธรรมชาติเนื่องจากการขาดไลซีนอาจทำให้ไม่อยากอาหารได้⁶ เป็นต้น ผู้ที่เสี่ยงต่อการขาดไลซีนคือผู้ที่รับประทานอาหารมังสวิรัต หรือได้รับโปรตีนไม่เพียงพอ เนื่องจากหลากหลายสาเหตุ เช่น กินอาหารที่มีโปรตีนต่ำ เลือกกิน กินอาหารไม่หลากหลาย ปัจจุบันในท้องตลาดมีการใช้ไลซีนในผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด เช่น เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์นม วิตามินเสริมสำหรับเด็กที่ช่วยให้เจริญอาหาร เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าไลซีนจะเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อลูก การให้ลูกกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนเพียงพอ ได้เล่นและมีกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย จะช่วยให้ลูกเติบโตสมวัย มีพัฒนาการที่ดี สุขภาพแข็งแรง

      
      

      Reference

      1. Insel P, Turner ER, Ross D. Nutrition. 3rd ed. Sunbury: Jones and Bartlett; 2007
      2. Joint, F. A. O., and World Health Organization. Protein and amino acid requirements in human nutrition: report of a joint FAO/WHO/UNU expert consultation. World Health Organization, 2007.2
      3. Spencer H, Samachson J. J Nutr.1963;81:301–6
      4. Civitelli R et al. Nutrition. 1992Nov-Dec;8(6):400-5.
      5. Zhao, Wenhua, et al. Food Nutr Bull25.2 (2004): 123-129.
      6. EFSA Panel on Dietetic Products, Nutrition and Allergies (NDA). EFSA Journal 9.4 (2011): 2063

    

    ควรให้ลูกดื่มนมเป็นมื้อเสริมวันละ 2 แก้วสำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

    ควรให้ลูกดื่มนมเป็นมื้อเสริม
    วันละ 2 แก้ว
    สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป

    นอกจากการดูแลมื้ออาหารหลักให้ได้สารอาหารครบถ้วนเหมาะสมแล้ว ในมื้อเสริมควรเลือกนมสำหรับเด็กที่ให้พลังงานสูง เพราะ
    ในช่วงวัยนี้เป็นช่วงอายุที่ลูกใช้พลังงานในการเล่นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งวัน และเลือกนมที่มีสารอาหาร 5 กลุ่มคุณประโยชน์ ไลซีน
    ดีเอชเอ โปรตีน แคลเซียม วิตามินดี และกรดอะมิโนจำเป็นอื่นๆ ครบถ้วน หากเป็นไปได้ อยากให้เลือกนมสูตรที่อร่อยโดยไม่ใส่
    น้ำตาลทราย เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของลูก

    และอย่าลืมให้ลูกรักออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้มีพัฒนาการที่ดี และช่วยกระตุ้น
    การเจริญเติบโตของลูกอย่างเต็มที่

    นอกจากการดูแลมื้ออาหารหลักให้ได้สารอาหารครบถ้วนเหมาะสมแล้ว ในมื้อเสริมควร
    เลือกนมสำหรับเด็กที่ให้พลังงานสูง เพราะในช่วงวัยนี้เป็นช่วงอายุที่ลูกใช้พลังงานใน
    การเล่นและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ทั้งวัน และเลือกนมที่มีสารอาหาร 5 กลุ่มคุณประโยชน์ ไลซีน
    ดีเอชเอ โปรตีน แคลเซียม วิตามินดี และกรดอะมิโนจำเป็นอื่นๆ ครบถ้วน หากเป็นไปได้
    อยากให้เลือกนมสูตรที่อร่อยโดยไม่ใส่น้ำตาลทราย เพื่อสุขภาพที่ดีกว่าของลูก

    และอย่าลืมให้ลูกรักออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้มีพัฒนาการ
    ที่ดี และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของลูกอย่างเต็มที่

  • 

    ท่าออกกำลังกายเพิ่มความสูง

    

    ความสูงของลูกเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยเหลือได้

    ความสูงของลูก เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ทุกคนให้ความใส่ใจ เพราะได้เห็นลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรง สมวัย ไม่แพ้เพื่อนในห้อง แต่รู้หรือไม่ว่า เรื่องความสูงและการเจริญเติบโตของลูกรักนั้น คุณแม่สามารถช่วยเหลือได้ วันนี้เราจึงมีท่าออกกำลังกายเพิ่มความสูง ที่มีส่วนช่วยให้เด็กยืดตัว จะมีท่าอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

    ความสูงของลูก
    เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยเหลือได้

    ท่าออกกำลังกายที่ช่วยให้ลูกยืดตัว เพิ่มความสูง
    การออกกำลังกายที่เหมาะสมตามช่วงวัย 3 ขวบปีแรก โอกาสทองของพัฒนาการ

    เนื่องจากช่วงวัย 0-3 ปี คือช่วงเวลาทองที่เด็กจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่มากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกาย
    ที่เหมาะสมตามช่วงวัย ดังนี้

    ความสูงของลูก เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ทุกคนให้ความใส่ใจ เพราะได้เห็น
    ลูกรักเติบโตอย่างแข็งแรง สมวัย ไม่แพ้เพื่อนในห้อง แต่รู้หรือไม่ว่าเรื่องความสูงและ
    การเจริญเติบโตของลูกรักนั้น คุณแม่สามารถช่วยเหลือได้ วันนี้เราจึงมีท่าออกกำลังกาย
    เพิ่มความสูง ที่มีส่วนช่วยให้เด็กยืดตัวจะมีท่าอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

    ท่าออกกำลังกายที่ช่วยให้ลูกยืดตัว เพิ่มความสูง
    การออกกำลังกายที่เหมาะสมตามช่วงวัย 3 ขวบปีแรก โอกาสทองของพัฒนาการ

    เนื่องจากช่วงวัย 0-3 ปี คือช่วงเวลาทองที่เด็กจะมีอัตราการเจริญเติบโตที่มากที่สุด
    คุณพ่อคุณแม่ควรส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกายที่เหมาะสมตามช่วงวัย ดังนี้

    • 

      0-11 เดือน เนื่องจากช่วงวัยนี้ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรก ทารกจะยังไม่สามารถขยับร่างกาย
      ได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องช่วยด้วยการจับแขนขาของลูกขยับอย่างอ่อนโยน
      เมื่อลูกเริ่มโตก็ค่อยส่งเสริมให้เขาได้พลิกตัว ประคองนั่ง ฝึกยืน ฝึกคลาน จนกระทั่งเขาสามารถ
      เดินได้ในที่สุด

      0-11 เดือน เนื่องจากช่วงวัยนี้ โดยเฉพาะช่วง 3 เดือนแรก ทารก
      จะยังไม่สามารถขยับร่างกายได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่จึงต้องช่วย
      ด้วยการจับแขนขาของลูกขยับอย่างอ่อนโยน เมื่อลูกเริ่มโตก็ค่อยส่งเสริม
      ให้เขาได้พลิกตัว ประคองนั่ง ฝึกยืน ฝึกคลาน จนกระทั่งเขาสามารถ
      เดินได้ในที่สุด

    • 

      1-3 ปี ในวัยนี้ลูกจะเริ่มเดินได้คล่อง และวิ่งได้ รวมถึงชอบในการกระโดด คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อย
      ให้ลูกได้วิ่งเล่น และกระโดดอย่างเต็มที่ โดยคอยระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของสถานที่
      และของเล่นต่างๆ

      1-3 ปี ในวัยนี้ลูกจะเริ่มเดินได้คล่อง และวิ่งได้ รวมถึงชอบในการกระโดด
      คุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้วิ่งเล่น และกระโดดอย่างเต็มที่ โดยคอย
      ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยของสถานที่ และของเล่นต่างๆ

    

    ท่าออกกำลังกายที่ช่วยในเรื่องความสูงของเด็กได้ดี มักเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ร่างกายทั้งตัวให้กล้ามเนื้อและกระดูกได้ยืดออกอย่างเต็มที่ โดยประเภทการออกกำลังกายที่เราอยากแนะนำได้แก่

    ท่าออกกำลังกายที่ช่วยในเรื่องความสูง
    ของเด็กได้ดี มักเป็นการออกกำลังกาย
    ที่ใช้ร่างกายทั้งตัวให้กล้ามเนื้อและ
    กระดูกได้ยืดออกอย่างเต็มที่ โดย
    ประเภทการออกกำลังกายที่เราอยากแนะนำ
    ได้แก่

    • 

      บาสเกตบอล

      เป็นกีฬาที่อาศัยการก้าว กระโดด ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูก รวมถึงข้อต่อเกิดการยืดตัว
      และสร้างให้แข็งแรงยิ่งขึ้น ที่สำคัญการออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหว
      และการทรงตัวของร่างกายได้ดี

      เป็นกีฬาที่อาศัยการก้าว กระโดด ทำให้กล้ามเนื้อและกระดูก
      รวมถึงข้อต่อเกิดการยืดตัว และสร้างให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
      ที่สำคัญการออกกำลังกายประเภทนี้จะช่วยในเรื่องการ
      เคลื่อนไหวและการทรงตัวของร่างกายได้ดี

    • 

      ว่ายน้ำ

      ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อและกระดูกทุกส่วนอย่างเต็มที่ และไม่ทำร้ายข้อต่อ เพราะน้ำจะช่วยพยุง
      ไม่ให้เกิดแรงกระแทก ทำให้ดีต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

      ร่างกายได้ใช้กล้ามเนื้อและกระดูกทุกส่วนอย่างเต็มที่ และไม่
      ทำร้ายข้อต่อ เพราะน้ำจะช่วยพยุงไม่ให้เกิดแรงกระแทก
      ทำให้ดีต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

    • 

      กระโดดเชือก

      ร่างกายของเด็กจะเกิดการเหยียดตัวตรง และใช้แรงจากกล้ามเนื้อขา ช่วยกระตุ้นให้ข้อต่อเกิด
      การยืดตัว และการกระโดดเชือกนั้นจะช่วยให้เด็กได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่

      ร่างกายของเด็กจะเกิดการเหยียดตัวตรง และใช้แรงจาก
      กล้ามเนื้อขา ช่วยกระตุ้นให้ข้อต่อเกิดการยืดตัว และการ
      กระโดดเชือกนั้นจะช่วยให้เด็กได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่

    • 

      วอลเลย์บอล

      เด็กจะได้กระโดดและใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง พร้อม
      เป็นฐานรับรองการเจริญเติบโตของกระดูก ทำให้ร่างกายยืดตัวได้ดีขึ้น

      เด็กจะได้กระโดดและใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างเต็มที่ ทำให้
      กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรง พร้อมเป็นฐานรับรองการ
      เจริญเติบโตของกระดูก ทำให้ร่างกายยืดตัวได้ดีขึ้น

    • 

      โหนบาร์

      จะช่วยให้ลูกได้ยืดกล้ามเนื้อ กระดูก และหลังอย่างเต็มที่ นอกจากจะช่วยให้ตัวสูงขึ้นแล้ว
      การโหนบาร์ยังเป็นท่าออกกำลังกายที่ช่วยจัดรูปกระดูกให้เหยียดตรงอีกด้วย

      จะช่วยให้ลูกได้ยืดกล้ามเนื้อ กระดูก และหลังอย่างเต็มที่
      นอกจากจะช่วยให้ตัวสูงขึ้นแล้ว การโหนบาร์ยังเป็นท่า
      ออกกำลังกายที่ช่วยจัดรูปกระดูกให้เหยียดตรงอีกด้วย

    สิ่งสำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกท่าออกกำลังกายที่ลูกชอบเพื่อให้เขาสนุกสนานเพลิดเพลิน และอย่าลืมพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมออีกด้วย

    สิ่งสำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกท่าออกกำลังกายที่ลูกชอบ เพื่อให้เขาสนุก
    สนานเพลิดเพลินและอย่าลืมพาเขาไปออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมออีกด้วย