เคล็ดลับบรรเทาเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอด
14 ธ.ค. 63
70
เลือดออกทางช่องคลอดและตกขาว

เลือดออกกะปริดกะปรอยระหว่างตั้งครรภ์ จะมีอาการคล้ายกับการมีรอบเดือนที่มีเลือดออกน้อยมาก มักพบในช่วงสามเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากไข่ที่ได้รับการผสมแล้ว ฝังตัวเข้ากับผนังมดลูก

ถ้ามีอาการอื่นๆร่วมด้วยจะน่าเป็นห่วง เพราะอาจเป็นสัญญาณของการแท้งบุตรหรือการตั้งครรภ์นอกมดลูก เพราะฉะนั้นควรปรึกษากับสูติแพทย์ทุกครั้งที่สังเกตเห็นเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์ รวมทั้งถ้าพบว่ามีเลือดออกกะปริดกะปรอยในช่วงสามเดือนก่อนคลอดเพราะอาจทำให้คลอดก่อนกำหนด

สาเหตุของอาการเลือดออกในช่วงตั้งครรภ์
เลือดออกพบได้บ่อยในระยะแรกของการตั้งครรภ์ อาจเป็นในช่วงต่างๆ ดังนี้
  • ไข่ที่ผสมแล้วฝังตัวกับผนังมดลูก
  • รกจะฝังตัวในเยื่อบุมดลูก
  • ปากมดลูกอ่อนนุ่ม
  • การแปรปรวนของรอบเดือนอาจเกิดขึ้นได้บ้าง ทำให้บางท่านอาจมีเลือดออกในช่วงที่ครบกำหนดการมีรอบเดือนตามปกติได้
  • ติดเชื้อในช่องคลอดหรือปากมดลูก หรือ มีติ่งเนื้อ (polyp)
  • อาจเกิดขึ้นหลังการมีเพศสัมพันธ์ได้ด้วยเช่นกัน
ทางที่ดีที่สุด คุณควรปรึกษาสูติแพทย์หากมีเลือดออกเกิดขึ้นในช่วงตั้งครรภ์เสมอ

อาการตกขาวในช่วงตั้งครรภ์
ตกขาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างตั้งครรภ์...ทำอย่างไร? ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะนี่คืออาการทั่วไปในหญิงมีครรภ์ทุกคน ตกขาวที่มากขึ้นเกิดจากเลือดที่ไหลมาหล่อเลี้ยงบริเวณช่องคลอดมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยจะมีลักษณะขาว ใสและไม่มีอาการคัน แต่จะมีลักษณะข้นขึ้นเมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด

บางครั้งตกขาวอาจเป็นเพราะติดเชื้อหรือโรคเชื้อราในช่องคลอด (thrush) โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีอาการคันหรือมีอาการแสบร้อนร่วมด้วยตกขาวจะค่อนข้างขุ่นข้น  มีสีเขียวหรือเหลือง และอาจมีกลิ่นเหม็น หากคุณแม่สังเกตเห็นอาการเหล่านี้ ควรพบสูติแพทย์เพื่อรักษา

การจัดการกับตกขาวที่มีลักษณะข้นขึ้น
  • ให้ใช้แผ่นอนามัยเพื่อรองซับเอาไว้ (ดีกว่าใช้ผ้าอนามัยแบบสอด)
  • ชำระล้างบริเวณดังกล่าวด้วยน้ำอุ่นเป็นประจำ และไม่ใช้สบู่ที่มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งจะทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้
  • สวมกางเกงชั้นในผ้าฝ้ายเนื้อบางเบา
โดยปกติแล้ว ตกขาวมักจะสร้างความรู้สึกรำคาญมากกว่าความรู้สึกวิตกกังวล หากคุณมีอาการตกขาว พยายามนึกไว้เสมอว่าแล้วอาการนี้ก็จะหายไปทันที่ที่คลอดลูกน้อย

บทความที่เกี่ยวข้อง